ดร. ชิน ซึ่งเป็นผู้นำการศึกษาในนามของโรงพยาบาลหัวใจและหลอดเลือดเบย์เลอร์ (BHVH) พบว่าการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสัปดาห์ละสองครั้งหรือมากกว่านั้นสัมพันธ์กับโรคคาร์ดิโอเมตาบอลิซึม ซึ่งเพิ่มโอกาสของบุคคลที่จะเป็นโรคหัวใจและอาการอื่นๆ เช่นโรคเบาหวานและโรคหลอดเลือดสมอง ดร. ชินยังพบว่าผลลัพธ์เหล่านี้พบได้บ่อยในผู้หญิง เขากล่าวว่าอาจมีสาเหตุมาจากความแตกต่างทางชีววิทยา (เช่น ฮอร์โมนเพศและการเผาผลาญอาหาร) ระหว่างเพศ ตลอดจนความอ้วนและส่วนประกอบของอาการเมตาบอลิกซินโดรม นอกจากนี้ พฤติกรรมการกินที่แตกต่างกันของชายและหญิงและความแตกต่างในความถูกต้องของการรายงานอาหารอาจมีบทบาทในช่องว่างระหว่างเพศ อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างเพศคือสารเคมีที่เรียกว่า บิสฟีนอล เอ (BPA) ซึ่งใช้สำหรับบรรจุ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ในภาชนะโฟม การศึกษาพบว่า BPA รบกวนการทำงานของฮอร์โมนที่ส่งข้อความผ่านร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน ดร. ชินกล่าวว่าการศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่เราป้อนให้ร่างกายโดยไม่คำนึงถึงการค้นพบที่เกี่ยวข้องกับเพศหรือสาเหตุของพวกเขา